ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กิฟฟารีน ถั่งเช่า ดับเบิ้ลยู Giffarine CHONG CAO-W


กิฟฟารีน ถั่งเช่า ดับเบิ้ลยู Chong Cao – W ถั่งเช่าสำหรับผู้หญิง สูตรสำหรับ บำรุงร่างกาย+ผิวสวย


กิฟฟารีน ถั่งเช่า ดับเบิ้ลยู Chong Cao – W ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถั่งเช่า ผสม วิตามินซี ทับทิมสกัด ไลโคพีน และจมูกถั่วเหลือง

          ครบเซ็ทผิวสวย สุขภาพดี ด้วยสูตรใหม่ ของถั่งเช่า ดับเบิ้ลยู เหมาะสำหรับคุณผู้หญิง แข็งแรงด้วย สวยด้วย 








ชื่อสมุนไพร : ถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า
ชื่อสามัญ (ชื่อภาษาอังกฤษ) : Chong cao, Dong chong xia cao
ชื่ออื่น : ถั่งเช่า, หนอนเทวดา, ตังถั่งแห่เช่า, เห็ดถั่งเช่า, หญ้าหนอน ถั่งเช่าธิเบต
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cordyceps sinensis (Berk.) Sacc. (อ้างอิงที่ 1


 ถั่งเช่า (Chong cao) เป็นพืช ตระกูลเห็ด มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cordyceps sinensis (Berk.) Saec. ในธรรมชาติ พืชชนิดนี้จะเกิดในตัวหนอนผีเสื้อชนิดหนึ่งชื่อ Hepialus armoricanus Oberthiir หนอนชนิดนี้ในฤดูหนาวจะฝังตัวจำศีลอยู่ใต้ดินภูเขาหิมะ หนอนจะกินสปอร์ของเห็ดถั่งเช่า เข้าไป เห็ดจะเจริญในตัวหนอน จนหนอนค่อย ๆ ตาย เห็ดถั่งเช่า มีสรรพคุณเป็นยามาตั้งแต่สมัยโบราณ ด้วยคุณสมบัติมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บำรุงร่างกาย ลดอาการเหนื่อยล้า เสริมภูมิคุ้มกัน ทำลายมะเร็งชนิดต่าง ๆ ลดความเสื่อมของเซลล์ และ เรื่องสมรรถภาพทางเพศ ทั้งหญิงและชาย เป็นที่รู้จักกันว่าเป็น ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย ถือว่าเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงสุดอย่างหนึ่งของเอเชีย

          ตำราแพทย์แผนจีน ถั่งเช่า มีสรรพคุณทางยาหลายประการ อาทิเช่น ปรับประจำเดือนให้สมดุล บำรุงร่างกาย บำรุงอวัยวะภายใน ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ บำรุงสตรีให้มีบุตรง่าย ด้วยเหตุนี้ ชาวจีนจึงนิยมนำถั่งเช่ามาปรุงอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพ ทั้งในคนทั่วไปและผู้สูงอายุ (อ้างอิงที่ 1-2)

          ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ สามารถ ทำการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Tissue Culture) และนำมาพัฒนาต่อเป็นอาหารเสริมและยา ถั่งเช่ามีสารสำคัญนั่นก็คือ คอร์ไดเซพิน (Cordycepin) และสารอื่น ๆจำนวนมาก Cordycepin มีงานวิจัย ถึงคุณประโยชน์ มากมาย ถ้านับสรรพคุณที่วิจัยในหนูทดลอง จะพบว่า มีประโยชน์มากมายในหลายด้าน และมีงานวิจัยในมนุษย์อีกมากมาย สรุปคุณประโยชน์ของถั่งเช่ามีดังนี้



สรุปคุณประโยชน์ของถั่งเช่า– ต้านอนุมูลอิสระ
– เพิ่มการใช้ออกซิเจน อย่างมีประสิทธิภาพของเซลล์
– เพิ่มความแข็งแรงในคนสูงอายุ
– ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ ทั้งหญิงและชาย
– ลดน้ำตาลในเลือด
– ลดไขมันในเลือด
– เพิ่มคุณภาพชีวิต ความแข็งแรงในผู้ป่วยโรคปอด ถุงลมโป่งพอง โรคไตวายเรื้อรัง
– ช่วยรักษา ผู้ป่วยโรคหอบหืด
– ช่วยบำรุงไต ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง โรคเบาหวาน ลดความเป็นพิษของสารพิษต่อไต
– ช่วยในการรักษาตับอักเสบเรื้อรัง จากไวรัสตับอักเสบ B
– ทำลายเซลล์มะเร็งของคนได้หลายชนิด ได้แก่ 
      มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งสมอง มะเร็งปาก มะเร็ง ลำไส้ มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งปอด มะเร็งไต มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งไทรอยด์ มะเร็งตับ มะเร็งถุงน้ำดี และ มะเร็งต่อมลูกหมาก
     ได้มีการนำมาใช้ในผู้ป่วย พบว่า ช่วยยืดอายุผู้ป่วยโรคมะเร็งตับ



ประสิทธิภาพของถั่งเช่า ต่อเซลล์
           ทำให้เซลล์ของร่างกายใช้พลังงานจากการสันดาป ออกซิเจนได้ดีขึ้น และมีการวัด ATP หรือสารให้พลังงาน ในเซลล์ของหนู โดยให้กินถั่งเช่ามาก ในช่วงเวลาอันสั้น พบว่า มี ATP เพิ่มขึ้น 55% นอกจากนี้ยังมีการวัดสารต้านอนุมูลอิสระ ในเซลล์ต่าง ๆ ของทั้งหนู กระต่าย และคน พบว่า มีการเพิ่ม เอนไซม์ super oxide dismutase (SOD.) ทำให้ช่วยทำลายอนุมูลอิสระได้มากขึ้นอย่างมาก (อ้างอิงที่ 3)

ถั่งเช่า กับผู้สูงอายุ          
มีรายงานศึกษาวิจัยเชิงทดลอง แบบมีกลุ่มควบคุม (DOUBLE BLIND, PLACEBO-CONTROLLED CLINICAL TRIAL) ว่า ถั่งเช่า ช่วยเพิ่มพลัง ลดอาการเหนื่อยล้า โดยมีการศึกษาทางคลินิก ในการให้ทานถั่งเช่า 3 กรัมต่อวัน กับผู้สูงอายุ และมีอาการต่าง ๆ ที่เกิดจากความชรา พบว่า
– ลดอาการเหนื่อยล้าได้ถึง 92%
– สามารถทนต่อความหนาวได้ดีขึ้น 89%
– ลดอาการหน้ามืดตาลายได้ 83%
– ลดอาการหูอื้อ ได้ 79%
– ลดความถี่ของการปวดปัสสาวะตอนกลางคืน ได้ 59% (อ้างอิงที่ 4)



ถั่งเช่า กับการลดน้ำตาลในเลือด          ถั่งเช่า มีผลในการลดน้ำตาลในเลือด โดยมีกรณีศึกษาฤทธิ์ ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยการให้ผู้ป่วยเบาหวาน รับประทานถั่งเช่า ปริมาณ 3 กรัมต่อวัน พบว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 95% ในขณะที่กลุ่มที่รักษาด้วยยาแผนปัจจุบันสามารถ ควบคุมระดับน้ำตาลได้เพียง 54% (อ้างอิงที่ 2)



ถั่งเช่ากับการลดไขมันในเลือด

          ถั่งเช่า ลดไขมันในเลือดได้ โดย มีหลายงานวิจัย ที่ได้ผลดีในหนูทดลอง มีงานวิจัยว่า ลดไขมันโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ได้ 50% และเพิ่มไขมัน HDL ได้ 35% ในหนูทดลอง
          งานวิจัยในคน มีงานวิจัย แบบมีกลุ่มควบคุม (Double blind, placebo –controlled clinical trial) โดย Shao และคณะในปี 1990 ในผู้ป่วย 273 คน ได้รับถั่งเช่า 3 กรัมต่อวัน เป็นเวลาสองเดือน สามารถลดไขมัน โคเลสเตอรอล ได้ 15% ไตรกลีเซอไรด์ ได้ 9.2 % และเพิ่มไขมัน HDL 27% (อ้างอิงที่ 4)



 ถั่งเช่า กับโรคตับ

          ปัจจุบัน พบว่า สาร Cordycepin ในถั่งเช่า มีงานวิจัยว่า มีผลดีต่อโรคตับ ในแง่ลดการอักเสบ ลดการสร้างพังผืด fibrosis ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะตับแข็ง มีการวิจัยในหนูทดลอง ในเรื่องนี้จำนวนมาก ทั้ง ไวรัสตับอักเสบ บี และซี สำหรับในคนที่มีงานวิจัยที่ดีและชัดเจน คือ มีผลช่วย ลดการอักเสบของไวรัสตับอักเสบบี เรื้อรัง โดยดูจาก ผลเลือด มีการลดค่าเอนไซม์ ตับอักเสบ และการตรวจชิ้นเนื้อ ลดการอักเสบ เนื้อเยื่อพังผืด (Fibrosis) อันจะนำไปสู่ภาวะตับแข็ง (อ้างอิงที่ 5) นอกจากนี้ ถั่งเช่ายังช่วยทำลายมะเร็ง ตับ และยืดอายุของผู้ป่วยมะเร็งตับ (อ้างอิงที่ 5-8)

ถั่งเช่ากับโรคไต

          ปัจจุบัน พบว่า สาร Cordycepin และสารสกัดอื่นในถั่งเช่า มีงานวิจัยว่า มีผลดีต่อโรคไต ไตวาย ไตอักเสบ อย่างมากมาย ได้ผลดีชัดเจนในสัตว์ทดลอง แม้ในคนไข้จริงก็มีงานวิจัยอย่างมากมายว่า ถั่งเช่า ช่วยบำรุงไต ปกป้องไต ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง (อ้างอิงที่ 9)
          มีงานวิจัยว่า ถั่งเช่า ลดการทำลายไต ลดความเป็นพิษต่อไต ในผู้ป่วยที่ได้รับยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ ชนิด แอมมิโนไกลโคลไซด์ ซึ่งยังเป็นยาที่ใช้กันอยู่ในวงการแพทย์ (อ้างอิงที่ 10) และงานวิจัยว่า ถั่งเช่า ช่วยป้องกันไตวายในผู้ป่วยโรคหัวใจที่ได้รับการฉีดสี ตรวจรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ (อ้างอิงที่ 11) และ ถั่งเช่าช่วยป้องกันไตวายในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ได้รับการฉีดสี ตรวจรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ (อ้างอิงที่ 12) ถั่งเช่า เมื่อให้ร่วมกับยาลดความดัน ช่วยรักษาโรคไตในผู้ป่วยเบาหวาน (อ้างอิงที่ 13) ยังมีงานวิจัย โดนนำมาทดลองผู้ป่วยที่ได้รับการเปลี่ยนไต (ปลูกถ่ายไต) ว่ามีประโยชน์ ในผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไต และลดการใช้ยาต้านภูมิคุ้มกัน (อ้างอิง ที่ 14-16) ในเรื่องปลูกถ่ายไตนี้ต้องปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อนเสมอ 
นอกจากนี้ สารสกัดของถั่งเช่า สามารถยับยั้งการแบ่งตัว และทำลายเซลล์มะเร็งไต (อ้างอิงที่ 17)

ถั่งเช่ากับโรคปอด

          ถั่งเช่า นอกจากจะทำให้ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง มีความแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ยังมีประโยชน์ช่วยรักษาโรคหอบหืด โดยวิจัยในผู้ป่วยหอบหืด จำนวน 120 แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับ ถั่งเช่า และยาปลอมกลุ่มละ 60 คนเป็นเวลาสามเดือน พบว่า กลุ่มที่ได้รับถั่งเช่า มี การทำงานของปอดดีขึ้น เกิดการหอบหืดลดลง และคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (อ้างอิงที่ 18)


ถั่งเช่ากับความแข็งแรงทั่วไปของร่างกาย และสมรรถภาพทางเพศ

          เนื่องจากถั่งเช่า ช่วยให้เซลล์ในร่างกายมีการสันดาปใช้พลังงาน จากน้ำตาล และออกซิเจนได้ดีขึ้น จึงมีคุณสมบัติ เพิ่มความแข็งแรงของร่างกายโดยทั่วไป เช่น ลดอาการเหนื่อยล้า ปรับ ภูมิต้านทานของร่างกาย และเสริมสมรรถภาพทางเพศ โดยทั่วไปทั้งหญิงและชาย

ถั่งเช่า กับสมรรถภาพทางเพศ

          การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งสาเหตุของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้หญิงนั้น เกิดจาก 
1. อายุ : เมื่อผู้หญิงเริ่มก้าวเข้าสู่วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ความต้องการทางเพศ ความตื่นเต้นทางเพศ และการตอบสนองทางเพศลดลง
2. โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ : ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน โรคกระดูกพรุน โรคมะเร็ง เป็นต้น ด้วยภาวะความเจ็บป่วยทางร่างกายดังกล่าวอาจส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลง
3. การรักษาโรคด้วยยา : เช่น สเตียรอยด์ ยาลดกรด ยาลดการแพ้ การระคายเคือง ยาต้านโรคพาร์กินสัน แอลกอฮอล์ ยาคุมกำเนิด เป็นต้น



          นอกจากสาเหตุดังกล่าวข้างต้น อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อาจเกิดจากความเครียดหรือภาวะซึมเศร้า อันเนื่องมาจากการทำงานหนัก ภาระความรับผิดชอบต่อครอบครัว หรือความกังวลใจในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้หญิงที่พบบ่อย ได้แก่ มีความต้องการทางเพศลดลง ร่างกายไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นทางเพศ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นระหว่างหรือหลังการร่วมเพศ เช่น ช่องคลอดอักเสบ สารคัดหลั่งถูกขับออกมาน้อยทำให้ช่องคลอดฝืด เป็นต้น (อ้างอิงที่ 19-21) ซึ่งอาการดังกล่าว ส่งผลเป็นอย่างมากต่อสภาพจิตใจ และความสุขในการใช้ชีวิตคู่ จนในบางครั้ง อาจเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาครอบครัวได้

ถั่งเช่า ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศในหญิง


          มีงานวิจัยสนับสนุนว่า การใช้ถั่งเช่าที่ 3 กรัมต่อวัน ช่วยให้ผู้หญิงที่มีปัญหาหมดความรู้สึกทางเพศ (Libido) กลับมามีความรู้สึกทางเพศได้ 86 % (อ้างอิงที่ 22) จึงมีการนำถั่งเช่าที่ส่งผลดีต่อสุขภาพสตรีหลากหลายชนิดมาใช้เพื่อดูแลปัญหาดังกล่าว เพื่อสุขในชีวิตครอบครัว และช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง

ถั่งเช่า ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศในชาย

          โดย มีงานวิจัยเชิงทดลอง แบบมีกลุ่มควบคุม (Double blind ,placebo-controlled clinical trial) กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องความรู้สึกทางเพศลดลง (Hyposexuality) พบว่าในกลุ่มที่ให้ถั่งเช่า 3 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 40 วัน จำนวน 159 คน ให้ผลดีในเรื่องนี้ 64.1% และยังมีอีกสองการทดลองทางคลินิก กับผู้ป่วยที่มีปัญหาเดียวกัน ก็ให้ผลไปในทางเดียวกัน พบว่า การทดลองในกลุ่มที่ได้รับถั่งเช่า 189 คน ให้ผลดีในเรื่องนี้ 66.1% ส่วนอีกการทดลองพบว่า กลุ่มที่ได้รับถั่งเช่า 144 คน ให้ผลดีขึ้น 65.3% ในงานวิจัยนี้ยังได้ทดลองแก้ปัญหาสมรรถภาพทางเพศในชาย โดยทดลองกับกลุ่มผู้ชายที่มีปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว (Impotent male patients) จำนวน 28 คน พบว่าให้ผลดีขึ้น (64.3%) และได้รวบรวมอีกการทดลองกับลุ่มผู้ชายที่มีปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว จำนวน 22 คน พบว่า มากกว่า หนึ่งในสาม ที่จะกลับมามีเพศสัมพันธ์ได้ (อ้างอิงที่ 22)



CORDYCEPIN ในถั่งเช่า กับ การทำลายเซลล์มะเร็งต่างๆ ของมนุษย์

          เมื่อนำเซลล์มะเร็งของมนุษย์มาเพาะเลี้ยง พบว่า สารสกัดของถั่งเช่า สามารถยับยั้งการแบ่งตัว และทำให้เซลล์มะเร็งตายได้หลายชนิด ได้แก่
มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง (MELANOMA) มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด (ทั้งชนิด ADENOCARCINOMA และ NON SMALL CELL CARCINOMA) มะเร็งเม็ดเลือดขาว (ทั่วไป และ CML CHRONIC MYELOID LEUKEMIA) มะเร็งตับ มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งไต มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งสมอง (NEUROBLASTOMA) มะเร็งปาก (HUMAN ORAL SQUAMOUS CANCER CELL LINE) มะเร็งไทรอยด์ และมะเร็งต่อมลูกหมาก (อ้างอิงที่ 23-38) และยับยั้งการแพร่กระจาย ของมะเร็งรังไข่ (อ้างอิงที่ 39)
นอกจากนี้ มีการนำมาใช้ในผู้ป่วยจริง พบว่า ยืดอายุของผู้ป่วย มะเร็งตับ ดังได้กล่าวแล้ว (อ้างอิงที่ 8)

CORDYCEPIN ในถั่งเช่า กับ การทำลายเซลล์มะเร็งต่างๆ ของมนุษย์

          เมื่อนำเซลล์มะเร็งของมนุษย์มาเพาะเลี้ยง พบว่า สารสกัดของถั่งเช่า สามารถยับยั้งการแบ่งตัว และทำให้เซลล์มะเร็งตายได้หลายชนิด ได้แก่
มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง (MELANOMA) มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด (ทั้งชนิด ADENOCARCINOMA และ NON SMALL CELL CARCINOMA) มะเร็งเม็ดเลือดขาว (ทั่วไป และ CML CHRONIC MYELOID LEUKEMIA) มะเร็งตับ มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งไต มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งสมอง (NEUROBLASTOMA) มะเร็งปาก (HUMAN ORAL SQUAMOUS CANCER CELL LINE) มะเร็งไทรอยด์ และมะเร็งต่อมลูกหมาก (อ้างอิงที่ 23-38) และยับยั้งการแพร่กระจาย ของมะเร็งรังไข่ (อ้างอิงที่ 39)
นอกจากนี้ มีการนำมาใช้ในผู้ป่วยจริง พบว่า ยืดอายุของผู้ป่วย มะเร็งตับ ดังได้กล่าวแล้ว (อ้างอิงที่ 8)

ข้อห้าม ของการใช้ถั่งเช่า

เด็ก และ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่กำลังให้นมบุตร
ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาต้านเกล็ดเลือด
ผู้ที่ได้รับยากดภูมิต้านทานอย่างแรง หรือผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
ผู้ที่เป็นโรคตับแข็งหรือตับวายอย่างรุนแรง มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง ท้องโต
ผู้ป่วยที่กำลังได้รับ ยา เคโมรักษามะเร็ง
ผู้ป่วยวัณโรค


ข้อควรระวัง  เพิ่มเติมโรคเนื้องอก ซิสต์ที่มดลูก เต้านม รังไข่ ชอกโกแลตซิสต์ ควรได้รับการตรวจโรคเป็นระยะ
ผู้ป่วย เบาหวานที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดต่ำไม่ควรรับประทาน เพราะถั่งเช่า ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

อาหารสุขภาพที่มีการยอมรับว่า ช่วยในการดูแลสุขภาพสตรี อาทิเช่น

 สารสกัดจากทับทิม




คุณประโยชน์ ทับทิม ในผู้หญิง จากการวิจัยทางการแพทย์

1. ทับทิม มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก (อ้างอิงที่ 40 ) 
2. สามารถลดภาวะการสะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและแข็งตัวซึ่งจะทำให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือดตามมา ทั้งในคนและในหนูทดลอง ( อ้างอิงที่ 41,42 ) 
3. ทำให้เส้นเลือดที่หนาตัวและมีไขมันสะสมแล้วซึ่งเป็นเส้นเลือดที่ไม่ดีแล้ว มีความหนาตัวลดลง และลดไขมันที่สะสมลงอีกในหนูทดลอง (อ้างอิงที่ 43) 
4. บำรุงหัวใจในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด โดยเพิ่มการไหลเวียนที่ดีขึ้นและลดภาวะหัวใจขาดเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจ (อ้างอิงที่ 44)
5. ลดความดันโลหิตได้เล็กน้อย ประมาณ 5% ในผู้ป่วยที่ความดันโลหิตสูง ถ้ารับประทานน้ำทับทิมวันละ 50 ซีซี เป็นเวลาสองสัปดาห์ ( อ้างอิงที่ 45 ) 
6. บำรุงตับ ป้องกันการเป็นพิษต่อตับ ได้ ( Hepato protective effect ) ( อ้างอิงที่ 46 ) 
7. สารต้านอนุมูลอิสระจากน้ำทับทิมมีผลยับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านมของมนุษย์ ( Human breast cell ) (อ้างอิงที่ 47)


ไลโคพีน


          ไลโคพีน (Lycopene) เป็นสารแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่โดดเด่น ในผู้หญิง มีประโยชน์ในด้าน

• ช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ป้องกันผิวเสียจากแสงแดด
• ช่วยต้านมะเร็ง เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปอด
• ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
• ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคกระดูกพรุน

          ไลโคพีน พบกระจายอยู่ทั่วไปในร่างกาย โดยพบได้มากที่ต่อมหมวกไต (Adrenal) และลูกอัณฑะ (Testis) เนื่องจากร่างกายมนุษย์ ไม่สามารถสังเคราะห์แคโรทีนอยด์ขึ้นเองได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับจากการบริโภคเข้าไป แหล่งของไลโคพีนในอาหารคือ มะเขือเทศและผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ โดยไลโคพีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ที่ให้สีแดงในมะเขือเทศ นอกจากนี้ยังพบได้จากผลไม้อื่น ๆ เช่น แตงโม ฝรั่ง มะละกอ และพืชพวกส้ม (อ้างอิงที่ 48)

          ไลโคพีนมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ โดยมีความโดดเด่นในด้านการต้านอนุมูลอิสระแบบยับยั้งการทำงานของ Singlet Oxygen (Singlet Oxygen Quenching) (อ้างอิงที่ 49,50) มีงานวิจัยต่างๆเกี่ยวกับประโยชน์ของไลโคพีนในหลายๆด้านที่มีต่อมนุษย์ ดังนี้

ประโยชน์ของไลโคพีนต่อสุขภาพผิว

          มีการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไลโคพีนกับสุขภาพผิว โดยทำการศึกษาในกลุ่มผู้หญิงอายุ 40-50 ปี จำนวน 20 คน พบว่า ผู้หญิงที่มีปริมาณไลโคพีนสูงกว่า จะมีผิวที่เนียนนุ่มกว่า (อ้างอิงที่ 51) งานวิจัยในมนุษย์พบว่า การได้รับไลโคพีนช่วยป้องกันผิวเสียจากแสงแดดได้ (อ้างอิงที่ 52)

ประโยชน์ของไลโคพีนในการต้านมะเร็ง

          ไลโคพีนยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งได้อีกหลายชนิดด้วยคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ (อ้างอิงที่ 53) มีงานวิจัยในระดับ META-ANALYSIS ซึ่งเป็นงานวิจัยที่น่าเชื่อถือที่สุดรายงานว่า ไลโคพีน มีบทบาทในการลดความเสี่ยงของมะเร็งรังไข่ในหญิงวัยหมดประจำเดือน ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ได้ (อ้างอิงที่ 54,55) การศึกษาอื่นๆพบว่า ไลโคพีนยังช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องและมะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งปอดได้ (อ้างอิงที่ 56,57)

ประโยชน์ของไลโคพีนต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

          มีการศีกษาในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด (CARDIOVASCULAR DISEASE) พบว่าไลโคพีนช่วยทำให้การทำงานของเซลล์ในหลอดเลือดดีขึ้น (อ้างอิงที่ 58) รายงานการศึกษาเกี่ยวกับไลโคพีนระบุว่า ไลโคพีนช่วยต้านการพัฒนาของโรคหลอดเลือดหัวใจไม่ให้ลุกลามได้ (อ้างอิงที่ 59) มีการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับไลโคพีนกับอุบัติการณ์การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี พบว่า การได้รับไลโคพีนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ (อ้างอิงที่ 60)

ประโยชน์ของไลโคพีนต่อโรคกระดูกพรุน

          มีรายงานการศีกษาในกลุ่มผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน พบว่าการได้รับไลโคพีนช่วยลดการสลายของกระดูกได้ จึงอาจเป็นประโยชน์ในการลดความเสี่ยงของการเป็นโรคกระดูกพรุน (อ้างอิงที่ 61,62) และ

สารสกัดจากถั่วเหลือง มีคุณประโยชน์โดยสรุปดังนี้

– ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในสตรีวัยหมดประจำเดือน
– ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือด (อ้างอิงที่ 63)

วิตามินซี มีคุณประโยชน์โดยสรุปดังนี้ 
– ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง
– มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ


กิฟฟารีน ถั่งเช่า – ดับเบิ้ลยู  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถั่งเช่า ผสม วิตามินซี ทับทิมสกัด ไลโคพีน และจมูกถั่วเหลือง




ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารถั่งเช่า ผสมวิตามินซี ทับทิมสกัด ไลโคพีน และจมูกถั่วเหลือง ชนิดแคปซูล

ส่วนประกอบสำคัญโดยประมาณใน 1แคปซูล :

ถั่งเช่าชนิดผง 495.000 มก.แคลเซียม แอสคอร์เบต 97%  12.477 มก.(ให้วิตามินซี 10มก.)ทับทิมสกัด 10.000 มก.ผงจมูกถั่วเหลือง 10.000 มก.ไลโคพีน 10%  10.000 มก.(ให้ไลโคพีน 1มก.)

ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร : มีถั่วเหลือง

วิธีรับประทาน : วันละ 3-6 แคปซูล ก่อนอาหารหรือก่อนนอน

ขนาดบรรจุ : 20 แคปซูล
ราคาปกติ : 824 บาท
ราคาสมาชิก : 618 บาท ( 618 พีวี )




วิธีการสมัครสมาชิกกับเรา แบบง่ายๆ หรือจะสั่งซื้อสินค้ากับเรา

1. สมัครได้ที่ศูนย์กิฟฟารีนใกล้บ้านท่าน โดนนำชื่อและระหัสผู้แนะนำไปกรอก

(สรรเสริญ ศรีวารีรัตน์ รหัส 57111144)
หรือจะนำรหัสของผมได้ซื้อเองที่สำนักงาน หรือจะสั่งทางออนไลน์ได้เลยนะครับ

2.สมัครผ่านทางเวปนี้ได้เลย  ได้ที่นี่...คลิกเลย 
      โทร 063-9263628
Line ID :popandgung
Email :sansroen.s@gmail.com
หรือ คลิก สมัครกิฟฟารีน ออนไลน์ คลิ๊กที่นี่ (ให้ทางเราสมัครให้ครับ)
     เป็นเพื่อนกับเราได้ที่...ติดต่อทางเฟสบุ๊ค

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

น้ำทับทิม กิฟฟารีน กรานาดา

เรามาดูกันว่า ประโยชน์ของน้ำทับทิมกรานาดา กิฟฟารีน   ที่เราซื้อ กันไปท่านแล้วจะให้ผลประโยชน์อะไรบ้างกับร่างกายของเรา คุ้มค่า หรือไม่ (ทุกวันนี้ Admin บอกได้เลยว่าดื่มอย่างมั่นใจ และทำให้ สุขภาพดีขึ้นจริงๆ และคุ้มค่าด้วย คุ้มค่าทั้งราคาและคุ้มทั้งสุขภาพของ เราเอง) พร้อมแล้วงั้นเราไปดูกันเลยว่าทางการแพทย์เขาว่าอย่างไรกัน บ้าง ทับทิมเป็นผลไม้ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมมาก ทับทิมเป็นผลไม้ที่ ศักดิ์สิทธิ์ ในประวัติศาสตร์ พบว่าได้มีการนำ ทับทิม มาทำเป็นยารักษา โรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้ว ทับทิม POMEGRANATE ( Punica granatum L. ) ทับทิมเป็นผล ไม้ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมมาก ทับทิมสามารถปลูกได้ ในประเทศไทย แต่ที่แท้จริงเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย  (ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน) ทับทิมเป็นผลไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ ใน ประวัติศาสตร์ พบว่าได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่  8,000 ปีมาแล้ว ในประเทศเปอร์เซียโบราณมีความเชื่อว่า คุณค่าทาง อาหารทุกชนิดที่มีอยู่ในผลไม้ต่าง ๆ นั้น รวมกันอยู่ในทับทิม ทับทิม เป็นผลไม้ที่ได้รับการเพาะปลูกอย่างแพร่หลาย และทำเป็นผลิตภัณฑ์  ไปทั่วโลก ในทับทิม มีสา

ปัญจะภูตะ กิฟฟารีนเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร........ดื่มทุกวัน ได้ประโยชน์ดีดีทุกวัน

ปัณจะ ภูตะ เครื่องดื่มน้ำสมุนไพร 100% 39ชนิด  คัดสรรสมุนไพรทรงคุณค่าอย่างพิถีพิถัน 39 ชนิด สมุนไพรที่เด่นในพลังหยิน 20 ชนิด สมุนไพรที่เด่นในพลัง หยาง 19 ชนิด  สมดุล ของธาตุทั้ง 5 สมดุลของ หยิน  – หยาง ทำให้ทุกสรรพสิ่งบนโลกดำรงอยู่ได้อย่างปกติสุข เมื่อสมดุล ก็ ไม่ป่วย แข็งแรง มีความสำเร็จ มีความสุข ​ ปํญจะ ภูตะ สุดยอดสมุนไพร 39 ชนิด  ดูดซับพลังงานจากจักรวาล สะสมพลังในรูป หยิน-หยาง บางชนิดเด่นในพลัง ‘หยิน’ บางชนิดเด่นในพลัง ‘หยาง’ สร้างสมดุลชีวิต ​ ด้วยสุดยอดสมุนไพร 39 ชนิด เพื่อผลลัพธ์มหัศจรรย์ต่อสุขภาพ  และคุณภาพชีวิต อย่างไม่เคยมีมาก่อน ‘จิตสดใส กายแข็งแรง โรคร้ายหายขาด’   สมุนไพรธรรมชาติ 39 ชนิด   ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยทีมแพทย์ผู้เขี่ยวชาญ เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ เย็น   14 ชนิด  ฤทธิ์เย็นกลาง 6 ชนิด  ฤทธิ์อุ่น 13 ชนิด  และฤทธิ์ร้อน 6 ชนิด นำมาผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP  ผ่านการตรวจวิเคราะห์แล้วว่า  ปลอดเชื้อโรค  ปลอดสารพิษ ปลอดโลหะหนัก  จึงปลอดภัย 100 %  และได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อ.ย.อย่างถูกต้อง ปัณจะ ภูตะเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร............... ปัณจะ ภูตะ สุดยอดสมุนไพรอันทรง

ซิตริแม็กซ์ CITRIMAX กิฟฟารีน

ซิตริแม็กซ์ กิฟฟารีน  ซิตริแม็กซ์หรือ  HCA-SX นวัตกรรมในการดูแลรูปร่างให้หุ่นเป๊ะด้วย 3 กระบวนการสำคัญ              – ยับยั้งกระบวนการเปลี่ยนแป้ง และน้ำตาลให้เป็นไขมัน จึงลดการสะสมไขมันส่วนเกินในร่างกาย โดยยับยั้งเอนไซม์ ATP Citrate Lyase และลดการสร้าง Acetyl Coenzyme A ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกระบวนการเปลี่ยนอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น แป้ง น้ำตาล เป็นไขมันสะสมในร่างกาย              – เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายไปใช้เป็นพลังงาน โดยกระตุ้นการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพของเอนไซม์ Carnitine Acyl Transferase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยในการเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายไปใช้เป็นพลังงาน               – ลดปริมาณอาหารโดยที่ไม่ต้องอด และยังคงมีความสุขในการรับประทานอาหารที่คุณชื่นชอบได้เหมือนเดิม โดยช่วยเพิ่มการสร้างไกลโคเจน หรือพลังงานสำรองที่สะสมไว้ในตับและค่อยๆปล่อยออกมาใช้ได้ ส่งผลให้ร่างกายปรับสมดุลในการทานอาหารให้อิ่มเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มระดับสารสื่อประสาทที่มีชื่อว่า ซีโรโทนิน (Serotonin) ที่ควบคุมความรู้สึกอิ่ม และเกี่ยวข้องกับความสุขในการรับประทานอา