ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล
โคลีนไบร์ทาร์เทรต 445.75 มก. (ให้โคลีน 183.34 มก.)
วิตามินบี 1, วิตามินบี 2 และวิตามินพรีมิกซ์รวม 19.64 มก
(ให้วิตามินบี1 0.30 มก.,วิตามินบี2 0.34 มก.,วิตามินบี3 3.71 มก.,
วิตามินบี5 1.22 มก.,วิตามินบี 6 0.46 มก. และวิตามินบี12 0.55 มคก.)
ขนาด 30 แคปซูล
โคลีน-บี กิฟฟารีน Giffarnie Choline-B
โคลีนบี กิฟฟารีน โคลีนและวิตามินบี-คอมเพล็กซ์ เป็นสารอาหารที่จำเป็น และช่วยในการทำงานของระบบประสาท เช่น ความจำและการทำงานของกล้ามเนื้อ ช่วยในการขนส่งไขมันและโคเลสเตอรอล ช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือดหัวใจ และช่วยในการทำงานของตับให้เป็นปกติ การขาดโคลีนในสัตว์ทดลอง ทำให้เกิดไขมันสะสมในตับ และนำไปสู่การเป็นมะเร็งตับ
สรุปคุณสมบัติของวิตามิน บี-คอมเพล็กซ์
1.ช่วยในการทำงานของระบบประสาททั้งหมดในร่างกาย
2.ช่วยรักษาโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินบี เช่น เหน็บชา เส้นประสาทอักเสบ ตากระตุก ปากนกกระจอก ผิวหนังหยาบ ผิวหนังอักเสบ ลิ้นอักเสบ รวมถึง โลหิตจางการขาดวิตามินบี
โคลีน
โคลีนเป็นสารอาหารสำคัญตัวหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย มีความสำคัญต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างของผนังเซลล์ (Structural integrity of cell membranes) เมตาบอลิซึมของเมธิล (Methyl metabolism) การส่งผ่านของกระแสประสาท (Cholinergic neuotransmission) การส่งสัญญาณผ่านหนังเซลล์ (Transmembrane) signaling) และเมตาบอลิซึม กับการขนส่งของไขมันและโคเลสเตอรอล (อ้างอิงที่1)
โคลีนเป็นสารตั้งต้นหลักในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทที่มีชื่อว่า อะเซททิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่ง Acetylcholine นี้เป็นสารสื่อประสาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความจำ การควบคุมกล้ามเนื้อ และหน้าที่อื่นๆ อีกหลายอย่าง (อ้างอิงที่1) ดังนั้นโคลีนจึงมีผลต่อขบวนการส่งกระแสประสาทที่เกี่ยวข้องกับความจำและการ รับรู้เรียกได้ว่ามีบทบาทในพัมนาการด้านการเรียนรู้ โดยเฉพาะระบบความจำ (อ้างอิงที่2) รวมถึงมีการศึกษาในการใช้เพื่อป้องกันและรักษาโรคความจำเสื่อม (Alzhelmer”s disease) ด้วย (อ้างอิงที่3)
บทบาทสำคัญอีกประการหนึ่งของโคลีน คือ ทำให้ตับสามารถทำการขนถ่ายไขมันได้ (Fat transporation) และลดการสะสมไขมันในตับ (Hepatic steastosis) การทดลองในหนูพบว่า หากขาดโคลีนก็จะเกิดการสะสมไขมันที่ตับ (อ้างอิงที่4) การศึกษาวิจัยในคนก็พบว่า ผู้ที่ได้รับอาหารทางเส้นเลือดและมีการขายโคลีนก็จะเพิ่มไขมันสะสมในตับเช่น กัน และยังมีระดับเอนไซม์ของตับสูงขึ้น ซึ่งเป็นอาการของภาวะตับอักเสบอีกด้วย และเมื่อได้รับโคลีนก็จะลดการสะสมไขมันและลดการอักเสบของตับได้จริง (อ้างอิงที่5) สำหรับสัตว์ทดลอง เช่น หนู สภาวะที่ตับมีไขมันสะสมนี้ ยังร่วมไปกับเพิ่มอัตราการเป็นมะเร็งที่ตับได้ (อ้างอิงที่6) ในทางกลับกันเมื่อหนูทดลองเหล่านี้ได้รับโคลีนเสริม ก็ลดการเกิดมะเร็งในตับได้เช่นกัน (อ้างอิงที่7)
นอกจากประโยชน์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว โคลีนยังมีประโยชน์ในดานช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือด หัวใจด้วย (อ้างอิงที่1)
ปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย ใน 1 วัน (Adequate intake) สำหรับผู้ใหญ่เพศชายและหญิงคือ 550 mg และ 425 mg ตามลำดับ (อ้างอิงที่1) มีรายงานการวิจัยถึงผลกระทบของการขาดโคลีนในมนุษย์ว่า จะมีผลทำให้ปริมาณโคลีนลดลง และเกิดความเสียหายต่อตับได้ (อ้างอิงที่ 8,9)
วิตามินบี –คอมเพล็กซ์ คืออะไร
โคลีนบี กิฟฟารีน ประกอบไปด้วย วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ หรือ วิตามินบีรวม เป็นกลุ่มของวิตามินที่มีความจำเป็นต่อเส้นประสาทและความสมบูรณ์ของอวัยวะ ต่างๆ ช่วยบำรุงร่างกาย ผิวหนังและ ระบบประสาท วิตามินบีรวมประกอบด้วย วิตามินบี 1 (Thiamine) วิตามินบี 2 (Riboflavin) วิตามินบี 3 (Niacin) วิตามินบี 5 (Pantothenic acid) วิตามินบี 6 (Pyridoxine) วิตามินบี 12 (Cyanocobalamin) นอกจากนี้ยังมีกรดโฟลิค (Folicacid) โคลีน (choline) อิโนซิทอล (inosltol) และ ไบโอติน (Biotin) อีกด้วย (อ้างอิงที่10)
วิตามินบีต่างๆ มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
วิตามินบี 1 (Thiamine ) มีความสำคัญต่อเมตาบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรตหากขาดจะทำให้เกิดโรคเหน็บชา และจะแสดงอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทระบบหัวใจและหลอดเลือด ทางระบบประสาท จะมีอาการชาตามมือตามเท้าตากระตุก แขนขาอ่องแรง ส่วนอาการทางสมองพบว่า เนื้อสมองจะถูกทำลายผู้ป่วยจะมีอาการความจำเสื่อม ซึมเศร้า กระสับกระส่าย ทางระบบหัวใจและหลอดเลือดพบว่า หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น หัวใจมีขนาดโตขึ้นและมีความผิดปกติของการบันทึกคลื่นหัวใจ (อ้างอิงที่ 10)
วิตามินบี 2 (Riboflavin) มีความจำเป็นต่อการหายใจของเซลล์เมตาบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรตและไขมัน เป็น Co-enzyme ในการเปลี่ยนวิตามินบี 6 และกรดโฟลิคให้อยู่ในรูป Active ทั้งยังทำหน้าที่รักษาสภาพของเยื่อบุผิวและ Mucosa ให้เป็นปกติ
หาดขาดจะมีอาการแสดงทางจา ริมฝีปากและผิวหนัง เริ่มแรกนั้นริมฝีปากจะอักเสบ แห้งและแตก มุมปากจะซีดแตก เรียกลักษณะดังกล่าวว่าปากนกกระจอก (Angular stomatitis) และเมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการทางผิวหนัง ใบหน้ามีสะเก็ดมันๆ ต่อมาจะมีอาการอีกเสบของตา ตาสู้แสงไม่ได้ คันตาและแสบลูกตา (อ้างอิงที่10)
วิตามินบี 3 (Niacin) มีบทบาทในกระบวนการ Glycolysis, Kreb”s cycle และการสังเคราะห์กรดไขมัน
หากขาดจะมีผลต่อระบบประสาท โดยมีผลต่อระบบประสาทส่วนปลายไขสันหลัง และสมอง เช่น ปลายประสาทอักเสบ ซึ่งอาจมีอาการคลุ้มคลั่ง ชักและหมดสติก่อนตาย รวมถึงยังมีผลต่อระบบผิวหนัง ทำให้มีลักษณะผิวหนังหยาบเป็นจ้ำสีม่วงหรือเข้ม นอกจากนี้ยังมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร เริ่มตั้งแต่มีร่องแตกที่บริเวณริมฝีปาก เยื่อบุลิ้นจะฝ่อ ลีบ มีอาการอักเสบของลำใส้เล็กและมีเลือดออกท้องเดิน (อ้างอิงที่ 10)
วิตามินบี 5 (Pantothenic acid) มีความเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาชีวเคมีในร่างกายหลายอย่าง เช่น การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต การสร้างกลูโคส การสังเคราะห์กรดไขมันและสเตียรอยด์ฮอร์โมน หากขาดจะมีอาการปวดท้อง อาเจียนและเป็นตะคริว กล้ามเนื้ออ่อนตัวลง อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ (อ้างอิงที่10)
วิตามินบี 6 (Pyridoxine) เป็น Co-enzyme ที่จำเป็นต่อการผลิตสารสื่อประสาทหลายชนิด มีความสำคัญต่อปฏิกิริยาทั้งหมดในเมตาบอลิซึมของกรดอะมิโน มีบทบาทในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง
หากขาดจะพบอาการโลหิตจาง อ่อนเพลีย เป็นแผลที่มุมปาก ริมฝีปากอักเสบ ขาปลายมือปลายเท้า ผิวหนังเป็นจ้ำๆ มีสีม่วง และมีอาการทางประสาท เช่น มีความคิดสับสน ซึมเศร้า และอาจจะเกิดอาการชักได้ (อ้างอิงที่10)
วิตามินบี 12 (Cyanocobalamin) มีบทบาทในเมตาบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรตไขมัน โปรตีน รวมถึงมีบทบาทในการเจริญ การแบ่งตัวของเซลล์ และการสังเคราะห์สารที่หุ้มเส้นประสาท (Myelin) ด้วย
หากขาดจะมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากมีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์ผิว โดยเฉพาะเยื่อบุทางเดินอาหาร เช่น ทำให้ลิ้นอักเสบ และมีการเปลี่ยนของเยื่อบุคลอดทางเดินอาหาร และเนื่องจากมีความสำคัญต่อการสร้างสารที่หุ้มเส้นประสาท (Myelin) ดังนั้น ผู้ที่ขาดจะทำให้มีอาการทางประสาท เช่น ขาตามมือและเท้า เมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการสับสน ประสาทหลอนได้ รวมถึงมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตอย่างปกติของเม็ดเลือดแดง หากร่างกายขาดวิตามินชนิดนี้จะทำให้โลหิตจาง (อ้างอิงที่10)
สรุปคุณสมบัติของโคลีน
1. เป็นสารอาหารที่จำเป็น และช่วยในการทำงานของระบบประสาท เช่น ความจำ และการทำงานของกล้ามเนื้อ
2. ช่วยในการขนส่งไขมันและโคเลสเตอรอล ช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือดหัวใจ
3. ช่วยในการทำงานของตับให้เป็นปกติ การขาดโคลีนในสัตว์ทดลอง ทำให้มีไขมันสะสมในตับ และนำไปสู่การเป็นมะเร็งตับสรุปคุณสมบัติของ วิตามิน บี คอมเพล็กซ์
1. ช่วยในการทำงานของระบบประสาททั้งหมดในร่างกาย
2. ช่วยรักษาโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินบี เช่น เหน็บชา เส้นประสาทอักเสบ ตากระตุก ปากนกกระจอก ผิวหนังหยาบ ผิวหนังอักเสบ ลิ้นอักเสบ และโลหิตจางจากการขาดวิตามินบี
โคลีนเป็นสารอาหารสำคัญตัวหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย มีความสำคัญต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างของผนังเซลล์
(Structuralintegrity of cell membranes) เมตาบอลิสมของเมธิล (Methyl metabolism) การส่งผ่านของกระแสประสาท
(Cholinergicneurotransmission) การส่งสัญญาณผ่านผนังเซลล์ (Transmembrane signaling) และ เมตาบอลิสม กับ การขนส่งของไขมันและโคเลสเตอรอล (อ้างอิงที่ 1)
โคลีนเป็นสาร ตั้งต้นหลักในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทที่มีชื่อว่า อะเซททิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่ง Acetylcholine นี้เป็นสารสื่อประสาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความจำ การควบคุมกล้ามเนื้อ และหน้าที่อื่น ๆ อีกหลายอย่าง (อ้างอิงที่ 1) ดังนั้น โคลีนจึงมีผลต่อขบวนการส่งกระแสประสาทที่เกี่ยวข้องกับความจำและการรับรู้ เรียกได้ว่า มีบทบาทในพัฒนาการด้านการเรียนรู้ โดยเฉพาะระบบความจำ (อ้างอิงที่ 2) รวมถึงมีการศึกษาในการใช้เพื่อป้องกันและรักษาโรคความจำเสื่อม (Alzheimer’s disease) ด้วย (อ้างอิงที่ 3)
บทบาทสำคัญอีกประการหนึ่ง ของโคลีนคือ ทำให้ตับสามารถทำการขนถ่ายไขมันได้ (Fat transportation) และลดการสะสมไขมันในตับ (Hepatic steastosis) การทดลองในหนูพบว่า หากขาดโคลีนก็จะเกิดการสะสมไขมันที่ตับ (อ้างอิงที่ 4) การศึกษาวิจัยในคน ก็พบว่า ผู้ที่ได้รับอาหารทางเส้นเลือด และมีการขาดโคลีนก็จะเพิ่มไขมันสะสมในตับเช่นกัน และยังมีระดับเอนไซม์ของตับสูงขึ้น ซึ่งเป็นอาการของภาวะตับอักเสบอีกด้วย และเมื่อได้รับ โคลีนก็จะลดการสะสมไขมัน และลดการอักเสบของตับได้จริง (อ้างอิงที่ 5) สำหรับสัตว์ทดลอง เช่น หนู สภาวะที่ตับมีไขมันสะสมนี้ ยังร่วมไปกับ เพิ่มอัตราการเป็นมะเร็งที่ตับได้ (อ้างอิงที่ 6 ) ในทางกลับกัน เมื่อหนูทดลองเหล่านี้ได้รับ โคลีน เสริม ก็ลดการเกิดมะเร็งในตับได้เช่นกัน (อ้างอิงที่ 7)
นอกจากประโยชน์ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว โคลีน ยังมีประโยชน์ในด้านช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือดหัวใจ ด้วย (อ้างอิงที่ 1)
ปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกายใน 1 วัน (Adequate Intake) สำหรับผู้ใหญ่ เพศชาย และ หญิง คือ 550 mg และ 425 mg ตามลำดับ (อ้างอิงที่ 1) มีรายงานการวิจัยถึงผลกระทบของการขาดโคลีนในมนุษย์ว่า จะมีผลทำให้ปริมาณโคลี นลดลงและเกิดความเสียหายต่อตับได้ (อ้างอิงที่ 8 , 9)
วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ คืออะไร
วิตามิน บี-คอมเพล็กซ์ หรือ วิตามินบีรวมเป็นกลุ่มของวิตามินที่มีความจำเป็นต่อเส้นประสาทและความ สมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ ช่วยบำรุงร่างกาย ผิวหนังและระบบประสาท วิตามินบีรวมประกอบด้วย วิตามินบี1 (Thiamine) , วิตามินบี 2 (Riboflavin) , วิตามินบี 3 (Niacin) , วิตามินบี 5 (Pantothenic acid) , วิตามินบี 6 (Pyridoxin) , วิตามินบี 12 (Cyanocobalamin) นอกจากนี้ยังมี กรดโฟลิค (Folic acid) โคลีน (Choline) อิโนซิทอล (Inositol) และ ไบโอติน (Biotin) อีกด้วย (อ้างอิงที่ 10)
โคลีนบี กิฟฟารีน Giffarnie Choline-B
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โคลีน ไบทาร์เทรต ผสมวิตามินบีคอมเพล็กซ์ ชนิดแคปซูล ตรากิฟฟารีน
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล
โคลีนไบร์ทาร์เทรต 445.75 มก. (ให้โคลีน 183.34 มก.)
วิตามินบี 1, วิตามินบี 2 และวิตามินพรีมิกซ์รวม 19.64 มก
(ให้วิตามินบี1 0.30 มก.,วิตามินบี2 0.34 มก.,วิตามินบี3 3.71 มก.,
วิตามินบี5 1.22 มก.,วิตามินบี 6 0.46 มก. และวิตามินบี12 0.55 มคก.)
เลขที่จดทะเบียนอย.13-1–03440-1-0070
ขนาด: 30 แคปซูล
ราคาปกติ: 280 บาท