กิฟฟารีน ไลโคพีน LYCOPENE
กิฟฟารีน ไลโคพีน “ไลโคพีน” เป็นสารแคโรทีนอยด์ พบกระจายอยู่ทั่วไปในร่างกายคนเรา โดยพบได้มากที่ต่อมหมวกไต และลูกอัณฑะ แต่ เนื่องจากร่างกายมนุษย์ ไม่สามารถสังเคราะห์ ขึ้นเองได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับจากการบริโภคเข้าไป
ไลโคพีน (Lycopene) เป็นสารแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ
1.ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
2. ช่วยลดขนาดเนื้อร้ายในผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก
3. ช่วยลดการเติบโตของต่อมลูกหมากในผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต
4. ช่วยบารุงผิว ทาให้ผิวเนียนนุ่ม ป้องกันผิวเสียจากแสงแดด
5. มีคุณสมบัติ ช่วยต้านมะเร็งรังไข่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปอด
6. ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
7. ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคกระดูกพรุน
8. ช่วยเพิ่มปริมาณและคุณภาพของตัวอสุจิในชายที่มีบุตรยาก
ไลโคพีน เป็นสารแคโรทีนอยด์ พบกระจายอยู่ทั่วไปในร่างกาย โดยพบได้มากที่ต่อมหมวกไต (Adrenal) และลูกอัณฑะ (Testis) เนื่องจากร่างกายมนุษย์ ไม่สามารถสังเคราะห์แคโรทีนอยด์ขึ้นเองได้ ดังนั้นจึงจาเป็นต้องได้รับจากการบริโภคเข้าไป แหล่งของไลโคพีนในอาหารคือ มะเขือเทศและผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ โดยไลโคพีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ที่ให้สีแดงในมะเขือเทศ นอกจากนี้ยังพบได้จากผลไม้อื่น ๆ เช่น แตงโม ฝรั่ง มะละกอ และพืชพวกส้ม (อ้างอิงที่ 1)
ไลโคพีนมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ โดยมีความโดดเด่นในด้านการต้านอนุมูลอิสระแบบยับยั้งการทางานของ Singlet Oxygen (Singlet Oxygen Quenching) (อ้างอิงที่ 2,3)
ยังมีงานวิจัยที่ศึกษาว่า การได้รับไลโคพีนในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเป็นเวลา 3 สัปดาห์ แล้วทาการผ่าตัดรักษา พบว่า เนื้อร้ายที่พบมีขนาดเล็กลง (อ้างอิงที่ 8-9)
ในด้านการศึกษาเกี่ยวกับโรคต่อมลูกหมากโต มีการศึกษาในชายสูงอายุที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโต แต่ไม่ได้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก จานวน 40 คน โดยได้รับไลโคพีนเป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่า ช่วยหยุดการโตของต่อมลูกหมากได้ (อ้างอิงที่ 10)
เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่ามีการใช้มะเขือเทศในการบารุงผิวพรรณ เช่น นามาฝานเป็นแว่นๆ แล้วใช้แปะที่ผิว หรือรอบดวงตา การดื่มน้ามะเขือเทศเพื่อบารุงผิวพรรณ เป็นต้น มีการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไลโคพีนกับสุขภาพผิว โดยทาการศึกษาในกลุ่มผู้หญิงอายุ 40-50 ปี จานวน 20 คน พบว่า ผู้หญิงที่มีปริมาณไลโคพีนสูงกว่า จะมีผิวที่เนียนนุ่มกว่า (อ้างอิงที่ 11)
งานวิจัยในมนุษย์พบว่า การได้รับไลโคพีนช่วยป้องกันผิวเสียจากแสงแดดได้ (อ้างอิงที่ 12)
ประโยชน์ของไลโคพีนในการต้านมะเร็ง
ไลโคพีนยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งได้อีกหลายชนิดด้วยคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ (อ้างอิงที่ 13)
มีงานวิจัยในระดับ meta-analysis ซึ่งเป็นงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ รายงานว่า ไลโคพีน มีบทบาทในการลดความเสี่ยงของมะเร็งรังไข่ในหญิงวัยหมดประจาเดือน ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งหลอดอาหารได้ (อ้างอิงที่ 14-16)
การศึกษาอื่นๆพบว่า ไลโคพีนยังช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องมะเร็งปอดได้ (อ้างอิงที่ 17)
รายงานการศึกษาเกี่ยวกับไลโคพีนระบุว่า ไลโคพีนช่วยต้านการพัฒนาของโรคหลอดเลือดหัวใจไม่ให้ลุกลามได้ (อ้างอิงที่ 19)
มีการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับไลโคพีนกับอุบัติการณ์การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี พบว่า การได้รับไลโคพีนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ (อ้างอิงที่ 20)
ประโยชน์ของไลโคพีนต่อโรคกระดูกพรุน
มีรายงานการศีกษาในกลุ่มผู้หญิงวัยหมดประจาเดือน พบว่าการได้รับไลโคพีนช่วยลดการสลายของกระดูกได้ จึงอาจเป็นประโยชน์ในการลดความเสี่ยงของการเป็นโรคกระดูกพรุน (อ้างอิงที่ 21,22)
และจากการติดตามศึกษาในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่เป็นเพศชาย 370 คน และเพศหญิง 576 คน อายุ 70-80 ปี เป็นเวลากว่า 17 ปี พบว่า ในกลุ่มที่ได้รับไลโคพีนสูง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกสะโพกหักได้ (อ้างอิงที่ 23)
อีกการศึกษาหนึ่งทากับกลุ่มชายที่มีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุ พบว่าช่วยเพิ่มจานวนอสุจิได้ ลักษณะรูปร่างของตัวอสุจิและคุณภาพการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิดีขึ้น (อ้างอิงที่ 25)
2. Quenching Activities of Common Hydrophilic and Lipophilic Antioxidants against Singlet Oxygen Using Chemiluminescence Detection System. Carotenoid Science, Vol.11, 2007, 16-20
3. Overview of mechanisms of action of lycopene. Exp Biol Med (Maywood). 2002 Nov;227(10):920-3. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12424335
4. The role of tomato products and lycopene in the prevention of prostate cancer: a meta-analysis of observational studies. Cancer Epidemiol Biomarkers Prev. 2004 Mar;13(3):340-5. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/15006906
5. Lycopene and Risk of Prostate Cancer: A Systematic Review and Meta-Analysis. Medicine (Baltimore). 2015 Aug;94(33):e1260. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/26287411
6. Lycopene/tomato consumption and the risk of prostate cancer: a systematic review and meta-analysis of prospective studies. J Nutr Sci Vitaminol (Tokyo). 2013;59(3):213-23. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23883692
7. มะเร็งต่อมลูกหมาก สาขาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. http://www.si.mahidol.ac.th/th/department/surgery/urogicalWebsite/th/article.html
8. Phase II randomized clinical trial of lycopene supplementation before radical prostatectomy. Cancer Epidemiol Biomarkers Prev. 2001 Aug;10(8):861-8. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/11489752
9. Effects of lycopene supplementation in patients with localized prostate cancer. Exp Biol Med (Maywood). 2002 Nov;227(10):881-5. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12424329
10. Lycopene inhibits disease progression in patients with benign prostate hyperplasia. J Nutr. 2008 Jan;138(1):49-53. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18156403
11. Cutaneous concentration of lycopene correlates significantly with the roughness of the skin. Eur J Pharm Biopharm. 2008 Aug;69(3):943-7. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18411044
12. Tomato paste rich in lycopene protects against cutaneous photodamage in humans in vivo: a randomized controlled trial. Br J Dermatol. 2011 Jan;164(1):154-62. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20854436
13. Lycopene: a review of its potential as an anticancer agent. Curr Med Chem Anticancer Agents. 2005 Nov;5(6):627-35. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16305484
14. Meta-analysis of the association between dietary lycopene intake and ovarian cancer risk in postmenopausal women. Sci Rep. 2014 May 9;4:4885. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24810584
15. The role of tomato products and lycopene in the prevention of gastric cancer: a meta-analysis of epidemiologic studies. Med Hypotheses. 2013 Apr;80(4):383-8. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23352874
16. Carotenoid intake and esophageal cancer risk: a meta-analysis. Asian Pac J Cancer Prev. 2013;14(3):1911-8. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23679292
17. Tomato Lycopene and Lung Cancer Prevention: From Experimental to Human Studies. Cancers (Basel). 2011 Jun; 3(2): 2333–2357. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3757421/
18. Effects of oral lycopene supplementation on vascular function in patients with cardiovascular disease and healthy volunteers: a randomised controlled trial. PLoS One. 2014 Jun 9;9(6):e99070. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24911964
19. Lycopene and Its Antioxidant Role in the Prevention of Cardiovascular Diseases - A Critical Review. Crit Rev Food Sci Nutr. 2015 Feb 12:0. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/25675359
20. Relationship of lycopene intake and consumption of tomato products to incident CVD. Br J Nutr. 2013 Aug 28;110(3):545-51. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23317928
21. Dietary restriction of lycopene for a period of one month resulted in significantly increased biomarkers of oxidative stress and bone resorption in postmenopausal women. J Nutr Health Aging. 2011 Feb;15(2):133-8. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/21365167
22. Supplementation with the antioxidant lycopene significantly decreases oxidative stress parameters and the bone resorption marker N-telopeptide of type I collagen in postmenopausal women. Osteoporos Int. 2011 Apr;22(4):1091-101. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20552330
23. Protective effect of total carotenoid and lycopene intake on the risk of hip fracture: a 17-year follow-up from the Framingham Osteoporosis Study. J Bone Miner Res. 2009 Jun;24(6):1086-94. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19138129
24. Lycopene and male infertility. Asian J Androl. 2014 May-Jun;16(3):420-5. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24675655
25. Lycopene therapy in idiopathic male infertility--a preliminary report. Int Urol Nephrol. 2002;34(3):369-72. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12899230
กิฟฟารีน ไลโคพีน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไลโคพีน ผสมวิตามินซี ชนิดแคปซูล (ตรา กิฟฟารีน)
ส่วนประกอบ ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย
– มะเขือเทศผง 385 มิลลิกรัม
– ไลโคพีน 10% 60 มิลลิกรัม
( ให้ไลโคพีน 6 มิลลิกรัม)
– โซเดียมแอสคอร์เบต 33.75 มิลลิกรัม
( ให้วิตามีนซี 30 มิลลิกรัม)
วิธีใช้ : รับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร
เลขที่จดทะเบียนอย.13-1-03440-1-0171
รหัสสินค้า : 41027
ปริมาณสุทธิ : 30.00 แคปซูล
น้ำหนักรวม : 50 กรัม
ราคา : 512 บาท